|
ความคิดเห็นที่ 1
Sam
25 พ.ย. 2555 เวลา 22:47 น.
223.204.34.18
วิธีทำน้ำใบย่านาง
ย่านาง เป็นสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติปรับสมดุลในร่างกาย เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น น้ำคั้นจากใบย่านางเป็นคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติและยังมีแคลเซียมและวิตามินซีจำพวก เอ, บี 1, บี 2 และ เบต้า-แคโรทีน ค่อนข้างสูง
น้ำใบย่านาง สามารถลดความอ้วน,แก้โรคเบาหวาน,ความดัน,หัวใจ มะเร็ง, ภูมิแพ้,ร้อนใน,ไซนัสจมูกตัน,ไมเกรน,ริดสีดวงทวาร,ปอดร้อนนอนกรน กรดไหลย้อน ฯลฯ
รากของเถาย่านางนั้นสามารถช่วยถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่น ๆ แก้เมาเรือ แก้เมาสุรา แก้โรคหัวใจและแก้ลม ใบก็ช่วยถอนพิษและแก้ไข้
วิธีทำ
1.ใช้ใบย่านาง 30-50ใบ ต่อน้ำ4ลิตรครึ่ง ผสมใบเตย-10ใบ
2.ตัดหรือฉีกใบย่านางและใบเตยให้เล็กลง แล้วนำไปโขลกให้ละเอียด หรือ ขยี้ หรือนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่น ควรใช้ระยะเวลาไม่นาน 30 วินาที – 1 นาที ก็เพื่อให้ผ่านความร้อนน้อยที่สุด เพื่อคงคุณค่ามากที่สุด
3.แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง หรือตะแกงตาถี่ (ที่ร่อนแป้งด้ามพาสติก) กรองเอาแต่น้ำสีเขียว แล้วนำไปดื่มแทนน้ำได้ทั้งวัน ที่เหลือให้เก็บไว้ในตู้เย็นไว้ดื่มได้4-5วัน ถ้ารสชาดเปลี่ยนสรรพคุณจะเริ่มเสื่อมแล้ว ถ้าเสียแล้วจะเริ่มมีรสเปรี้ยวให้ทิ้งไป
วิธีกิน
ดื่มน้ำย่านางสด ๆ ครั้งละประมาณครึ่งแก้ววันละ 1-3 ครั้ง ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่างหรือจะดื่มแทนน้ำก็ได้ บางครั้งสามารถผสมน้ำมะพร้าว น้ำตาล น้ำมะนาว ในรสชาติไม่จัดเกินไปเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้นก็ได้ครับ ถ้าต้องการให้หายเร็ว ก็ให้ดื่มวันละ1.5ลิตรขึ้นไป
สิ่งสำคัญคือความพอดีของร่างกาย บางคนดื่มน้ำย่านางแล้วรู้สึกแพ้ ผะอืดผะอม จึงควรกลับไปดูว่าปริมาณการดื่มและมีความเข้มข้นของสมุนไพรนั้นเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่และควรลดปริมาณดื่มลงมาแบบพอดีกับที่ร่างกายที่เราต้องการ
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดื่มน้ำย่านาง ผู้ที่เป็นมะเร็ง, เบาหวาน,โรคอ้วน,ไขมันในเลือดสูง ห้ามกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น พริกไทย,กะเพรา,ขิง,ข่า,ใบมะกูด ฯลฯ และอาหาร รสจัด เช่นหวานจัด,เผ็ดจัด, เค็มจัด,มันจัด,อาหารปิ้ง,ย่าง,ทอด,อบด้วยความร้อนสูง เพราะอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน จะทำให้โรครุนแรงขึ้น โบราณท่านว่าเป็นของแสลงครับ (((พืชผัก, ผลไม้,เนื้อสัตว์ ที่มีสารเคมีตกค้าง มีพิษ ฤทธิ์ร้อนมาก))) คนที่ดื่มแล้ว ร่างกายเกิดภาวะเย็นเกินไป ควรเติมน้ำร้อนหรือนำไปต้มก่อน แล้วดื่มตอนอุ่นๆครับ
--------------------------------
** อีกสูตรหนึ่งเป็นของคุณ Lucky ที่ได้โพสต์เอาไว้ที่หัวข้อ “อยากทราบยาสมุนไพรรักษาโรคไตเสื่่อม “ซึ่งมีรายละเอียดคือ
การใช้ใบย่านาง ในการเพิ่มคลอโรฟิล คุ้มครองเซลล์ บรรเทาอาการภาวะไม่สมดุล แบบร้อนเกิน ให้ทำดังนี้
- เด็ก ใช้ใบย่านาง ๑ -๕ ใบ ต่อน้ำ ๓ แก้ว
- ผู้ใหญ่รูปร่างผอม บาง ทำงานไม่ทน ใช้ ๕-๗ ใบต่อน้ำ ๑ - ๓ แก้ว
- ผู้ใหญ๋รูปร่างผอม บาง ทำงานทน ใช้ ๗ - ๑๐ ใบ ต่อน้ำ ๑ - ๓ แก้ว
- ผู้ใหญ่ตัวโต ใช้ ๑๐ - ๒๐ ใบ ต่อน้ำ ๑ - ๓ แก้ว
โดยใช้ใบย่านางสดโขลกให้ละเอียดแล้วเติมน้ำ หรือขยี้ใบย่านางกับน้ำ หรือปั่นในเครื่องปั่น
แล้วกรองผ่านกระชอนเอาแต่น้ำ ดื่มครั้งละ ครึ่งแก้ว-๑ แก้ว วันละ ๒ - ๓ เวลา ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่าง ควรดื่มภายใน ๔ ชม ถ้าหลังจากนั้นจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ไม่เหมาะสมที่จะดื่ม แต่ถ้าแช่ในตู้เย็น ควรใช้ภายใน ๓ - ๗ วัน ดื่มไปเรื่อย ๆ อาการจะดีขึ้น บางรายที่เป็นหนัก กินถึง ๓ เดือน ก็หายจากโรคต่าง ๆ มามากแล้ว
ที่สำคัญ ต้องปรับสมดุลด้านอารมณ์ อาหาร อยู่ในอากาศที่ดี ออกกำลังกายตามเหมาะสม
จะช่วยเอาพิษออกจากร่างกายได้เร็วมากขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคนอีกครั้ง.
--------------------------
และ*** อีกสูตรหนึ่งเป็นของคุณสุภีร์ นิ่มนวล กรณีเป็นมากและเร่งด่วน
-คือให้ใช้ใบย่านาง ๒๐ใบตำให้ละเอียด ต่อน้ำ ๑ แก้วละลายแล้วกรองดื่มเลย โดยทำกินก่อนอาหาร ทั้ง ๓ มี้อ 15-30 นาที (เช้า-กลางวัน-เย็น) ๑ วัน ใช้ใบย่านาง ๖๐ ใบ
...การทำน้ำใบย่านางก็ประมาณนี้ แล้วรอดูคำตอบจากท่านอื่นๆเพื่อประกอบกันนะครับ---
|
ความคิดเห็นที่ 2
้hobbit
26 พ.ย. 2555 เวลา 10:03 น.
124.122.107.105
กินใบย่านางสดๆได้ไม๊ค่ะ
|
ความคิดเห็นที่ 3
Sam
26 พ.ย. 2555 เวลา 20:16 น.
49.49.132.82
เคี้ยวสดๆได้เลยครับ ลองเข้าไปดูที่หัวข้อ->สมุนไพรรักษาเนื้องอกมดลูก คุณจะพบว่า
คุณวิชิตก็ใช้วิธีเด็ดใบล้างน้ำแล้วเคี้ยวเลย ดูดๆพอแห้งแล้วก็กินน้ำ ๑ อึก แล้วดูดๆ พอแห้งอีกครั้งก็คายทิ้ง
อีกคนหนึ่งก็คือพี่สาวของคุณchinyก็ใข้วิธีเคี้ยวใบสดแล้วดื่มน้ำผ่านล้างใบย่านางในปากจนจืด 1 แก้ว เคี้ยวครั้งละ 7 ใบ วันละ 3 ครั้ง
....วิธีนี้ใช้ได้ลองดูนะครับ...
|
ความคิดเห็นที่ 4
ทิน
9 ธ.ค. 2555 เวลา 14:23 น.
180.180.195.16
ผมขอเสริมจากคุณแซมนิดหนึ่งครับสำหรับวิธีการปั่นแบบให้คงคุณค่าสารอาหาร
เทคนิควิธีการปั่น
วิธีการปั่นคือ ไม่ควรกดปั่นครั้งเดียวจนใบย่านางละเอียด
เทคนิคที่แจ๋วกว่า คือให้กดปั่น แล้วนับ 1-2-3-4-5 อย่างเร็ว แล้วกดปิด
รอให้น้ำใบย่านางหยุดหมุน แล้วกดปั่นอีกครั้งนับ 1-2-3-4-5 อย่างเร็ว
แล้วกดปิด รอให้น้ำใบย่านางหยุดหมุนทำซ้ำไปเรื่อยๆจนใบย่านางละเอียด
วิธีนี้ทำให้โมเลกุลของสารอาหารไม่เปลี่ยนรูปร่างไปจากเดิม
เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางครับ
|
ความคิดเห็นที่ 5
Auntika kunok
14 มี.ค. 2556 เวลา 17:20 น.
115.67.99.65
อยากทราบว่ามีสมุนไพรอะไรบ้างที่รักษาอาการปวดตามข้อค่ะขอวิธีทำด้วยนะค่ะ
|
ความคิดเห็นที่ 6
Sam
14 มี.ค. 2556 เวลา 22:19 น.
223.207.45.215
ให้ซอยกระเทียมแล้วนับให้ได้ ๗ กลีบ แล้วใส่ในข้าวกินกับข้าวทุกมื้อ ให้กินเป็นประจำทุกวัน อาการปวดตามข้อจะค่อยๆหายไปครับ(คนที่มีอาการร้อนในห้ามกิน)
|
ความคิดเห็นที่ 7
บุษ
27 มี.ค. 2556 เวลา 17:30 น.
58.8.101.240
เป็นโรคกระเพาะทำยังจึงหายคะ
|
ความคิดเห็นที่ 8
Sam
27 มี.ค. 2556 เวลา 22:44 น.
171.6.8.102
เรื่องโรคกระเพาะให้ไปค้นหาในหัวข้อ เรื่องเลาสุขภาพดูซิครับ
หรือเอาวิธีรักษาแบบง่ายๆเลยก็คือเอากล้วยหักมุกหรือน้ำว้าดิบ นำมาหั่นให้เป็นชิ้นบางๆแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผง ตักกินครั้งละ ๑-๒ ช้อนโต๊ะโดยละลายกับน้ำซาวข้าวหรือน้ำหวานกิน โดยกินวันละ ๔ ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอน
หรือใช้ขมิ้นชันหั่นเป็นชิ้นๆแล้วตากแห้ง บดเป็นผงแล้วตักกินครั้งละ ๑ ช้อนโต๊ะกินกับน้ำขิงหรือน้ำผึ้งก็ได้ โดยกินก่อนอาหาร ๓ เวลา
หรือจะกินยาแผนปัจจุบันยี่ห้อ Miracid Acid ที่ต้วกล่องมีสีเขียวมีรูปกระเพาะเป็นสีขาว บรรจุ ๑๔ แคปซูน โดยกินควบคู่ไปกับกล้วยดิบหรือขมิ้นชัน อาการโรคกระเพาะก็จะหายเร็วขึ้นครับ
|
ความคิดเห็นที่ 9
วิชิต
31 มี.ค. 2556 เวลา 16:37 น.
101.108.106.79
ขออนุญาตไม่มีสระอินะครับคุณ Sam เคยดูรายการหนึ่ง น่าจะเป็นช่อง Thai PBS คุณโจน จันได ราชาบ้านดินพัฒนาสร้างได้ 2 ชั้นแล้ว บอกว่าเคยเป็นโรคกระเพาะปวดทรมานเป็นปีๆ กินยาฝรั่งก็ไม่หาย มาหายเอาภูมิปัญญาง่ายๆไม่น่าเชื่อว่าโลก(ล)นี้จะมี ตื่นเช้าให้กินน้ำเปล่า 5 แก้ว แรกๆอาจจะทำไม่ได้ วัน 2 วัน อาการปวดหายไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย ผมคิดเองว่าคงหลงทาง ลองหาดูย้อนหลังนะครับ อีกรายการหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นสารคดีช่อง PSI Channel หรือช่องเดียวกับรายการแรก(ต้องขออภัยจริงๆครับที่ไม่สนใจจำช่อง สนใจแต่ข้อมูล) หมอฝรั่งท่านหนึ่งพบว่าโรคกระเพาะเกิดจากสภาพเป็นกรดทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง วิธีแก้คือทำให้กระเพาะมีสภาพเป็นกรดน้อยลงหรือเป็นกลางหรือด่างอะไรนี่แหละ เพื่อให้เชื้อที่ว่าไม่อยากอยู่แล้วที่แบบนี้ สอดคล้องกับที่คุณโจน จันได บอกกินน้ำมากๆแล้วหาย อันนี้ผมคิดเองไม่เคยทำวิจัย แต่ที่แน่ๆ เมื่อก่อนใช้มอไซเวลาปวดขึ้นมาต้องจอดนอนหงายนิ่งๆ สัก 5-10 นาทีแล้วไปต่อได้ มีครั้งหนึ่ง 20-30 ปีก่อนดันไปนอนศาลาหน้าค่าทหารแถวคลองประปา ทหารยามสงสัยออกมาถาม พอดีเมียผมซ้อนมาด้วยเลยลอดไป แหมนอนพักให้หายปวดเดี๋ยวเดียวเอง
|
ความคิดเห็นที่ 10
Sam
1 เม.ย. 2556 เวลา 6:35 น.
49.48.222.23
ไม่มีสระ “ อิ ”ก็ไม่เป็นไรหรอกครับคุณวิชิต ขนาดระยองยังหิสั้น จันทร์หิยาว ตราดหิเชด..เลยครับ ...ฮ่าๆๆๆ
ก็เป็นความรู้อย่างหนึ่งที่ดีที่ดื่มน้ำ ๕ แก้วในตอนเช้าเพื่อไปละลายกรดในกระเพาะให้เจือจางลง แล้วโรคกระเพาะก็จะค่อยๆหายไป
ส่วนตัวผมเองนั้นจะคลุกคลีอยู่กับพวกกระเหรี่ยง พม่า มอญ ก็จะใช้สมุนไพรที่ใกล้ตัวที่หาง่ายๆ เช่น จะใช้หัวปลีกล้วยน้ำว้าหรือหักมุกหลายๆหัว นำมาหั่นแล้วสับให้ละเอียดนำไปปั่นหรือตำ แล้วคั้นเอาน้ำดื่ม ทำกินไปเรื่อยไม่กี่วันก็หาย....หรือบางครั้งเอาใบสาบเสือหรือเสือหมอบ เอามาตำคั้นเอาน้ำมาดื่มกับน้ำมะตูม+ใบเตย+น้ำผึ้งก็หาย...หรือเอาลูกฝรั่งลูกเล็กๆ(ที่ยังเป็นน้ำนมอยู่)เท่าปลายนิ้วก้อยจำนวนมากหลายๆลูก นำมาตำคั้นเอาน้ำดื่มก็หาย...นี่ก็เป็นวิธีฮ่ายๆนะครับ
ส่วนของพี่จำรัสที่แนะนำมาก็คือโรคกระเพาะที่เป็นแผลถ่ายออกมาดำ ตัวยาก็มี ขมิ้นชัน ตะไคร้ สมุนไพรลูกใต้ใบ กระเทียมหัว และว่านไพรใจดำ ตัวยาทั้งหมดอัตราส่วนเท่ากัน ต้มกินก่อนอาหาร ๓ เวลา ผลปรากฏว่าอาการปวดท้องเริ่มหายไป กินจนครบ ๑ เดือน ปัจจุบันไม่มีอาการดังกล่าวเลย
เห็นคุณวิชิตคุยเรื่องไปนอนข้างทาง ผมก็อดนึกถึงกระเทยแก่ไม่ได้ ถ้ากระเทยไปเจอคณขณะกำ ลังนอนอยู่จะทำไงเนี่ย....ฮ่าๆๆๆ
ดูคุณวิชิตเป็นคนรับผิดชอบและรักครอบครัวดีนะครับมักจะคุยเรื่องเมียเสมอ(ดังเพลงที่ร้อง“ เอาเมียมาด้วยเหรอ ”
ท้ายสุดก็เอาคาถาบูชาเมียของพี่จำรัสมาฝากนะครับ
คาถาบูชาเมีย
รักเมียต้องอดทน ต้องเป็นคนเคารพเมีย รักเมียต้องส่งเสีย อย่าให้เมียต้องสงสัย
รักเมียต้องรักเดียว อย่าได้เที่ยวไปรักใคร รักเมียต้องทำใจ ถึงอย่างไรเธอก็เมีย
รักเมียอย่าขี้เหล้า เมียจะเหงาเราจะเสีย รักเมียอย่าอ่อนเพลีย คนรักเมียต้องแข็งแรง
รักเมียอย่าเที่ยวดึก จะเกิดศึกผิดสำแดง รักเมียอย่ารุนแรง ค่อยๆแซงอย่าขับไว
รักเมียต้องยอมเมีย เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย
พี่จำรัสบอกว่าถ้าสวดก่อนนอนคืนละ ๓ จบทุกคืนจะประสพแต่ความสุขตลอดกาลครับ ฮ่าๆๆๆ
|
ความคิดเห็นที่ 11
น้ำใจ
24 มิ.ย. 2556 เวลา 19:09 น.
171.4.23.121
ขอแนะนำสมุนไพรรักษามะเร็งได้เกือบทุกชนิดนะคะ "ใบทุเรียนเทศ" หรือ "ทุเรียนน้ำ" ลองหาข้อมูลในพี่กูเกิ้ลดูนะคะ ขอให้หายสำหรับผู้ต้องการทางเลือกอีกทางหนึ่งค่ะ
|
ความคิดเห็นที่ 12
sam
24 มิ.ย. 2556 เวลา 19:52 น.
223.207.21.254
ขอบคุณคุณมีน้ำใจที่ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ
|
ความคิดเห็นที่ 13
nuch
28 มิ.ย. 2556 เวลา 11:10 น.
110.77.194.133
มีใบย่านางแดง ตากพอแห้ง ต้มดื่มน้ำได้มั้ยคะ สรรพคุณอะไรบ้าง ช่วยตอบทีค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า แต่ก็ต้มกินแล้ว หอมดี ขมเล็กน้อย
|
ความคิดเห็นที่ 14
sam
28 มิ.ย. 2556 เวลา 19:30 น.
171.5.147.195
ต้มดื่มน้ำได้ครับ ตำรายาไทย ใช้ ใบ เถา และราก สรรพคุณเหมือนย่านางขาวทุกประการ แต่มีฤทธิ์แรงกว่า และใช้แก้พิษ ถอนพิษยาเมา ยาเบื่อ ยาสั่ง ถอนพิษผิดสำแดง ถอนพิษและแก้ไข้พิษทั้งปวง ขับพิษโลหิตและน้ำเหลือง แก้ท้องผูกไม่ถ่าย ใช้ฝนกับน้ำ หรือน้ำซาวข้าว หรือต้มน้ำดื่มครับ
|
ความคิดเห็นที่ 15
joke
5 ก.ค. 2556 เวลา 14:17 น.
203.209.119.251
เป็นมะเร็งขั้วปอด และเส้นเลื่อดโรคหัวใจตีบ ความดันต่ำกินย่านางได้หรือเปล่าคะ
|
ความคิดเห็นที่ 16
sam
7 ก.ค. 2556 เวลา 8:33 น.
49.49.197.224
กินได้ครับแต่ก็ควรศึกษาปริมาณในการกินด้วยนะครับ
-เป็นมะเร็งขั้วปอด..ควรกินน้ำผัก จิงกูฉ่าย (ที่ใส่กับต้มเลือดหมู) โดยนำผักมา ๑ กำมือ แล้วนำไปคั้นเอาน้ำใส่ถ้วย แล้วกินเลย ให้ทำกินทุกวันนะครับ ๑ กำมือ พอ ๒ เดือน ให้คุณไปตรวจดูซิว่าจะยังมีเชื้อมะเร็งอยู่หรือไม่
หรือจะใช้เห็ดหลินจือต้มกับเหง้าของต้นพระพุทธรักษา(สีแดง)ต้มกินแทนน้ำก็ได้นะครับ
หรือจะต้มหญ้าปักกิ่ง(แห้ง)ต้มกินแทนน้ำก็ได้นะครับ
-ส่วนเส้นเลือดหัวใจตีบ ผมขอแนะนำให้คุณใช้กระเทียมที่เรากิน ๑ กำมือ ต้มกับน้ำมะพร้าว(ลูกใหญ่)จำนวน ๓ ลูก ต้มนาน ๒๐ นาที แล้วแบ่งกิน(น้ำมะพร้าว+กระเทียม)เป็น ๓ เวลา ก่อนอาหาร ๓ มื้อ กินก่อน ๑๕ นาที เมื่อหมดให้ทำกินใหม่ทำกินไปเรื่อยๆ กินจนเรารู้ตัวเราเอง
ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือใน ๑ วันให้กินกระเทียมตั้งแต่ ๑๐ กลีบจนถึง ๑ กำมือ กินทุกวัน(การกินไม่ใช่กินครั้งเดียวให้หมดเลย ๑ กำมือ ให้กินไปเรื่อยๆทั้งวันจนหมด)+ต้นตะไคร้อ่อนที่ปอกแล้ว ๒-๓ ต้น เคี้ยวกินเลย + ใบโหระพา(พอควร)--->แล้วต้องออกกำลังกายทุกวันให้ได้เหงื่อครับ เพราผักพวกนี้จะช่วยในการไปเผาผลาญไขมันอุดตันในเส้นเลือดให้ละลายลงมาครับ แล้วเลือดก็จะเดินสะดวก
---ก็ลองทำเท่านี้ดูก่อนนะ ผลเป็นประการใดแจ้งมาให้ทราบด้วยนะครับ..
|
ความคิดเห็นที่ 17
joke
8 ก.ค. 2556 เวลา 8:54 น.
203.209.119.251
ขอบคุณคะ จะลองทำดูนะคะ ขอบคุณมากๆเลยคะ
|
ความคิดเห็นที่ 18
แดง
23 ต.ค. 2556 เวลา 13:07 น.
115.87.208.52
ดีมากค่ะ
|
ความคิดเห็นที่ 19
พิชญ์
31 ต.ค. 2556 เวลา 22:14 น.
58.9.159.196
อายุ 35 ปีค่ะ ไปตรวจมาพบว่าเป็นเนื้องอกที่มดลูกขนาด 10 ซม. และมีก้อนเล็ก ๆ อีก ทำให้เชื้อไม่สามารถไปถึงไข่ได้ จึงทำให้ไม่ท้อง ทำไงดียังไม่มีลูกเลย หมอบอกว่ามีหลายวิธีที่รักษา บางที่ก็ให้ตัดทิ้ง (พูดง่าย) วิธีนึงคือการวางแผนครอบครัวโดยการต้องท้องเลยไปพร้อม ๆ กับการรักษาเนื้องอก อาจจะโดยการฉีดเชื้อเข้าไปที่ไข่เลย ให้ติดลูก และดูแลไปพร้อม ๆ กันที่สำคัญคือต้องระวังไม้ให้แท้งอย่างเดียว แล้วเนื้องอกเนี้ยมันจะมีผลกับเด็กหรือเปล่าค่ะ แล้วถ้ากินน้ำย่านางไปด้วยจะมีผลอะไรไหมค่ะ เครียดที่สุดเลย ขอคำแนะนำ และความช่วยเหลือด้วยค่ะ
|
ความคิดเห็นที่ 20
tomp
29 ม.ค. 2557 เวลา 10:48 น.
1.2.152.160
ขอแนะนำอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ฮอร์โมนไข่น้ำผึ้งตรา meen ทานแล้วรู้สึกได้ภายใน 7วันแรกครับ 0817697744
|
|