เรื่องเล่าสุขภาพ

"ในหลวง" เสด็จสวรรคต

                                                  
                                               " ในหลวง" เสด็จสวรรคต
                                                         จำรัส  เซ็นนิล  รวบรวม/เรียบเรียง 
  
              เหมือนสายฟ้าฟาด หัวใจคนไทยแทบแตกสลาย เมื่อได้ทราบข่าวจาก แถลงการณ์สำนักพระราชวัง " ในหลวง" เสด็จสวรรคต น้ำตารินไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
             ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต
             พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น
            แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดลงหนักตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬิกา ๕๒ นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาล ศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๘๙ ทรงครองราชสมบัติได้ ๗๐ ปี สำนักพระราชวัง  ๑๓ ตุลาคม  ๒๕๕๙
          เสียงร่ำให้โศกเศร้าจากพสกนิกรไทยทั้งประเทศ แม้กระทั่งชาวต่างชาติต่างหลั่งไหลเป็นคลื่นมหาชนไปยังโรงพยาบาลศิริราชมิขาดสาย ในยามนี้คนไทยต้องเผชิญกับเรื่องเศร้าที่สุดในชีวิตยากที่จะทำใจได้ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ คุณนวลฉวี ทรรพนันท์ เจ้าของหนังสือสุขภาพ “นาฬิกาชีวิต” ที่ผมเคารพนับถือ ได้ส่งเรื่อง “ทรงเป็นเทพคุ้มครองไทย”   ซึ่งเขียนโดย ปิยโสภณ ผมขออนุญาตินำมาเผยแพร่ เพื่อปลอบประโลมหัวใจคนไทยให้ผ่อนคลายนะครับ
          สำหรับผู้เขียนเรื่องนี้คือ พระราชญาณกวี (สุวิทย์ ปิยวิชฺโช) หรือปิยโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ถ.พระราม ๙ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และความพิเศษของวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกที่ท่านจำพรรษาอยู่  ก็คือเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช"สถาปนาขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๘
         ปิยโสภณ บันทึกไว้ว่า ยิ่งรัก ยิ่งโศก ยิ่งภักดียิ่งเศร้า ความโศกเศร้าเพราะพลัดพราก สูญเสียคนรัก คือพ่อแม่ญาติมิตร แม้จะทำใจได้ยาก แต่ก็กระเทือนเพียงเครือญาติ แต่คราวนี้กระเทือนหัวใจคนไทยทั้งชาติ เมื่อทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตแล้ว จะมีธรรมะข้อไหนบ้างเล่า ที่พอจะบรรเทาเยียวยาจิตใจคนไทยในคราครั้งนี้ลองใคร่ครวญตามนะ
          ๑ ให้คิดว่าพระเจ้าอยู่หัวเสด็จอุบัติมาสร้างบุญบารมี ทรงช่วยเหลือประชาชน บนราชบัลลังก์แห่งกษัตริย์มานานถึง ๗๐ ปี เมื่อเหนื่อยหนักก้อยากพักผ่อนบ้าง วันนี้พระองค์ท่านทรงพักพระวรกายให้สบายใจ ทรงพ้นทุกข์โศกโรคภัยทุกประการแล้ว เพียงร่างกายเท่านั้นที่เจ็บป่วยแต่ดวงใจยังแจ่มใส สงบนิ่ง อิ่มบุญ เพียงพระองค์ลงมาสร้างบารมีเยี่ยมเยียนโลกมนุษย์ชั่วขณะหนึ่งเสร็จภาระแล้ว วันนี้ขอเดินทางกลับไปสู่สวรรคาลัยที่ทรงประทับ บุญบารมีที่ทรงบำเพ็ญ ๘๙ ปี บนโลกมนุษย์ก็เพียงพอแล้ว ที่จะต่ออายุบนโลกสวรรค์
         พระองค์ไม่ได้ทิ้งคนไทยไปไหนแต่ทรงไปเป็นเทพไท้เทวา ผู้มีศักดิ์ใหญ่คอยปกป้องคุ้มครองผืนแผ่น พสกนิกรไทยที่จงรักภักดีต่อพระองค์ให้ทุกคนร่มเย็นเป็นสุข เหมือนที่เราขอพึ่งพระบารมีของสมเด็จพระปิยะมหาราช
      ๒  นึกในทางผ่อนคลาย การมาเกิดบนโลกใบนี้เหมือนออกสู่สนามรบ ในหลสวงทรงรบกับความทุกข์ยากลำบากของชาตินานาประการ ทรงผ่านมาทุกสมรภูมิ มีทั้งโศกเศร้าและสูญเสีย ทรงเป็นนักรบที่แม้แต่ข้าศึกก็ยังรัก ทรงรบกับความยากจน ให้คนจนมีรอยยิ้ม รบกับกิเลส โกรธเกลียดและทรงอภัย สุดท้ายทรงรบกับกาลเวลา ชรา พยาธิอย่างอดทนที่สุดถึง ๘๙ พรรษาจนร่างกายของพระองค์ชราและเสื่อมสภาพ
         ร่างกายเหมือนเครื่องบิน จิตเหมือนนักบิน ชราพยาธิเหมือนกระสุนข้าศึก เมื่อเครื่องถูกยิง นักบินต้องดีดตัวเองออกจากเครื่องบิน กดร่มชูชีพให้กาง เพื่อพยุงตัวลงสู่ที่ปลอดภัย ฉันใด วันนี้ดวงจิตของพระองค์ได้วางเรือนร่างที่ใช้งานมานาน จนชราชำรุดมากเกินการเยียวยาแล้ว ยิ่งรักษายิ่งทรุดโทรม จึงต้องใช้ธรรมชาติหลอมรวมหล่อใหม่ให้ดีกว่าเดิม
       นักบินคือดวงจิตของพระองค์ ทรงมีบุญกุศลพลังจิตจากพสกนิกรทั้งแผ่นดินส่งไปให้ เป็นเหมือนร่มชูชีพที่จะพยุงส่งให้พระองค์ปลอดภัยในสวรรคาลัย
     ๓  คิดในทางโลกุตระ สังสารวัฏนี้ไม่มีเกิด ไม่มีตายจริง มีเพียงปรากฏการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงตามหลักไตรลักษณ์เท่านั้น ทุกอย่างล้วนเป็นกฎแห่งธรรมชาติและสัจธรรม เวลานี้ธรรมชาติกำลังเยียวยาตัวเอง คือดินน้ำลมไฟ กำลังทำหน้าที่สร้างความสมดุลให้ชีวิต ซึ่งเครื่องมือแพทย์หมดทางเยียวยาแล้ว นี่คือกฏแห่งธรรมชาติ
        การเกิดเหมือนพระอาทิตย์ขึ้น การตายเหมือนพระอาทิตย์ตกดิน การเกิดใหม่ก็เหมือนดวงอาทิตย์ไปขึ้นใหม่ เราคิดว่าพระอาทิตย์ตกดินเพราะโลกมืด แต่ความจริง พระอาทิตย์ไม่ได้ตก  แต่กำลังไปขึ้นใหม่ ในอีกซีกหนึ่งของโลก ต่างหาก คิดดูว่าขณะที่คนร้องโศกเศร้าเสียใจเพราะสูญเสียคนที่รัก แต่อีกภพภูมิหนึ่งอาจดีใจคอยต้อนรับการกลับมาใหม่ของเทพผู้มีศักดิ์ใหญ่ก็ได้ เพราะมีเกิดจึงมีตาย เพราะมีตายจึงมีเกิด
        เมื่อมีเด็กมาเกิดใหม่ในบ้าน เราดีใจแต่เบื้องหลังอีกภพภูมิที่เด็กคนนี้จากมาอาจมีคนมากมายกำลังร้องให้เสียใจ เหมือนที่เกิดกับเราในขณะนี้ก็ได้ นี่คือสังสารวัฏของชีวิต ชีวิตเป็นสัจธรรม ทำงานเหมือนฤดูกาล
          เกิดเหมือนฤดูใบไม้ผลิ แก่เหมือนฤดูใบไม้ร่วง ตายเหมือนฤดูหนาวหิมะลงหนา  ดูเหมือนต้นไม้ตายเพราะทั้งต้นดูแห้งโกร๋น มีเพียงกิ่งก้านสาขาแต่ไร้ดอกใบ แต่เมื่อถึงฤดูสปริง ก็ผลิดอกออกใบคืนชีพมางดงามอีกรอบเหมือนการมาเกิดใหม่ของชีวิต ครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องเผชิญกับชรา พยาธิและมรณะหมุนเวียนไปเช่นนี้ ทุกชีวิตไม่สิ้นสุด จนกว่าจะหมดเชื้อกิเลสเป็นเหตุให้มาเกิด
           พิจารณาให้สูงขึ้น เกิดกับตายไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการสมมติเรียกธรรมชาติอย่างหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง  ชีวิตจึงหมายถึงการเดินทางแห่งกาลเวลา การเห็นคุณของบุญบารมี
           ขอพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ที่เต็มเปี่ยมงดงามสูงส่ง ได้ส่งพระองค์ให้ไปเป็นเทพผู้มีศักดิ์คอยดูแลปกป้องคุ้มครองไทยให้ร่มเย็นตลอดไปเทอญ
          ได้อ่านข้อเขียนของ “ปิยโสภณ” แล้ว ก็ทำให้พอผ่อนคลายได้บ้าง มีหลายๆมิติที่ท่านได้เปรียบเทียบให้เห็น ขอพระองค์ทรงสู่สวรรคาลัย ข้าพระพุทธเจ้าขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
          สุดท้ายขอหยิบยก บันทึกของ วลาดิเมียร์ ปูติน ผุ้นำรัสเซีย ได้บันทึกไว้ว่า “มหาราชผู้ยิ่งใหญ่” ที่ไม่เคยสู้รบกับใคร แต่สามารถทำให้ทุกคนยกย่องสรรเสริญได้ ทั่วโลกยอมแพ้ได้
มีแค่คนเดียวคือ  “คิงส์ภูมิพล”

                                      ธ สถิต ในดวงใจไทยนิรันดร์
                                    ด้วยความจงรักภักดีหาที่สุดมิได้
                                       ข้าพระพุทธเจ้า   Jamrat.net
                                  ---------------------------------------------------- 

 
          
                        ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย

      ซื้อเสื้อเหลือง เตรียมไว้ ใส่วันพ่อ    แขวนในตู้ เพื่อรอ วันสวมใส่
  ห้าธันวา เหลืองชมพู ดูวิไล                ปีนี้ไซร้  ต้องใส่ดำ ช้ำระทม
     น้ำตาไหล ใจตื้อ มือไม้สั่น              อยากให้เป็นเพียงฝันวันขื่นขม
  ข่าวพ่อสิ้น ทั้งแผ่นดินเศร้าโศกตรม   น้ำตาถม  ท่วมพื้น  พสุธา
     จอภาพดำ  ปรากฏ หมดสิ้นแล้ว    ร่มโพธิ์แก้ว โพธิ์ทองของปวงข้า
   เคยอาศัย  ใบบุญ อุ่นชีวา                  ชาวประชาร่ำให้ อาลัยรัก
     ขอพ่อหลวงเสด็จด้าว แดนสวรรค์  รักของพ่อ นิจนิรันดร์  แจ้งประจักษ์
   ทุกโอวาท  มอบไว้ ให้ลูกรัก              ฝากสลัก บนแผ่นดินอย่าสิ้น"ไทย"



               ข้าพระพุทธเจ้า ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
                                                                                            
 
                                                                     

blog comments powered by Disqus