31 ก.ค. 2558 เวลา 20:22 น., โดย จำรัส เซ็นนิล
หมอจับเส้น "มือหนึ่งนครพนม"
หมอจับเส้น
“ มือหนึ่งนครพนม”
จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง
ช่วงตระเวนแดนดินถิ่นอิสานตามหาหมอพื้นบ้านที่นครพนม อาการปวดไหล่ขวาของผม ก็ยังดีขึ้นไม่มากนักหลังจาก ไปให้หมอหลายคนนวดจับเส้นซึ่งส่วนใหญ่ที่ผมประเมินจากการที่ได้ทดลองนวดจะเป็นลักษณะการนวดผ่อนคลายเสียมากกว่า
ล่าสุดผมได้เดินทางไป บ้านหัวดอนน้อย อ.ธาตุพนม จ.นครพนมซึ่งอยู่ห่างจากวัดพระธาตุพนมไปตามเส้นทาง จังหวัดมุกดาหารประมาณ ๓ กิโลเมตร เพื่อค้นหา หมอจำเส้นมือดี ตามที่คุณโสภี โพธิ์ศรี อดีตทหารอากาศแนะนำมา
“ สวัสดีครับ แถวนี้รู้จักบ้านหมอจับเส้นไหมครับ” ผมจอดรถลงไปถามชาวบ้านละแวกนั้น
“ ไปอีกนิดหนึ่งเลยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ใกล้โรงเรียนบ้านดอนน้อย แถวนี้เขารู้จักกันหมดไปถามอีกครั้งนะคะ” แม่ค้าขายส้มตำแนะนำ และเมื่อขับรถใกล้ถึงโรงเรียนบ้านดอนน้อยคราวนี้ผมไม่ลงจากรถ ตะโกนถามช่างร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซด์ที่อยู่ริมถนน
“ พี่ครับ รู้จักบ้านหมอจับเส้นไหมครับ” แทนที่เขาจะตอบอยู่ตรงไหน กลับถามผมมาว่า
“ เส้นเอ็นกดทับเหรอครับ” ผมรู้สึกงง แล้วตอบไปว่า
“ ใช่ๆๆ บ้านหมออยู่ตรงไหนครับ” รีบตอบเพื่อไม่ให้เสียเวลา
“ ไปอีกนิดจะเห็นหลัก กม.๔๘ แล้วเลี้ยวขวาตรงป้ายยูเทริน มองเห็นต้นมะยมอยู่หน้าบ้าน เป็นบ้านชั้นเดียวขับตรงเข้าไปเลย” ผมขอบคุณแล้วรีบบึ่งรถไปทันที
เมื่อถึงบ้านหมอผมเดินขึ้นไปบนบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงประมาณ ๑ เมตรตรงเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเปิดประตูหน้าต่างโล่ง บริเวณภายในกว้างโล่ง อากาศถ่ายเทเย็นสบาย กลางห้องมองเห็นหมอกำลังนวดจับเส้นให้กับผู้ป่วยชายรายหนึ่ง ซึ่งนอนหงายบนเสื่อผืนย่อม มีหมอนหนุนที่หัว มีหมอนข้างหนุนขาทั้งสองให้สูงขึ้น ผมยกมือไหว้หมอและบอกวัตถุประสงค์ในการมารักษาอาการปวดไหล่ให้หมอฟัง หลังจากนั้นก็นั่งรอบนพื้นใกล้กับที่นวด
หมอโนช ลำพอง
ผมถือโอกาสพูดคุยกับผู้ป่วยรายหนึ่งที่มานวดที่นี่ ชื่อเนิด พ่อมาตย์ อยู่ที่ตำบลพุแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม มีอาการปวดหลังปวดเอว เคยทั้งกินยา เดินทางไปรักษาและนวดมาหลายที่ แต่ไม่ดีขึ้น หลังมาให้หมอที่นี่จับเส้นแล้วอาการดีขึ้นตามลำดับ คุณเนิด เล่าให้ผมฟังว่า
“ หมอจะจับเส้นตรวจสอบดูว่าจะสามารถกู้คืนได้หรือเปล่าบางรายต้องใช้เวลา บางรายถ้าเคล็ดขัดยอกมา นวดดึงไม่ถึง ๕ นาที” ผมชักทึ่ง ระหว่างนั้นมีสุภาพสตรีท่านหนึ่งมาจากกรุงเทพฯเคยมารักษาแล้วดีขึ้น คราวนี้เกิดเคล็ดที่ข้อเท้า กลับมาอีกรอบ หมอให้นั่งเก้าอี้จับนวดคลึงดึงไม่ถึง ๕ นาทีผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านได้เลย ผมคิดในใจ เราโชคดีจริงๆได้พบเจอหมอจับเส้นจริงๆซะที
ส่วนค่ายกครูทราบว่าแล้วแต่กำลังศรัทธา เห็นผู้หญิงคนนั้นมอบให้หมอหนึ่งร้อยบาท ขณะนั่งรอผมสังเกตที่ข้างฝาด้านทิศตะวันออกมีภาพของพระภิกษุรูปหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแขวนอยู่ ผมทำท่าจะถ่ายรูปหมอก็เอ่ยขึ้นว่า
“ ถ่ายลงไลน์ไม่ได้นะครับ” ผมชะงักแล้วก็พูดตอบไปว่า
“ เออ..ผมขออนุญาตถ่ายเป็นที่ระลึกครับ ” หมอเงียบไม่ตอบ
สักพักหนึ่งหมอก็เล่าให้ผมฟังว่าว่า ท่านชื่อพระเทพนรินทร์ ชินรังสี ฉายา “ฉันทโก ภิกขุ อยู่วัดเทพนรินทราราม อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เคยมานวดที่นี่ ท่านเดินธุดงค์นั่งสมาธินานเลยปวดเมื่อย เวลามามีรถตู้ติดตามมาด้วย ๔-๕ คัน ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งนั้น หมอปูผ้าปูที่นอนพร้อมหมอนอย่างดีให้ ท่านบอกไม่เอา หมอนเสื่อแบบนี้ดีแล้ว เราคนเหมือนกัน หมอถวายน้ำท่านก็รับแต่ไม่ฉัน เวลามาที่นี่ญาติโยมจะตามมา ฟังท่านเทศน์ให้ความรู้ทุกครั้งไม่ถือตัว
ท่านเคยชวนหมอไปอยู่ด้วยไปช่วยกันปลูกป่าถวายในหลวง ราชินี แต่หมอไม่ไป หมอ เคยขอของดีท่าน ท่านบอกว่าจะให้ แล้วบอกว่าของดีอยู่ที่ปาก ถ้าปากเราดีไม่มีใครเบียดเบียนทำร้ายเรา ถ้าปากเราไม่ดีเขาก็ทำร้ายเรา ไม่มีอะไรดีเกินปากของดีจึงอยู่ที่ปาก
ผมตัดบทมาถามประวัติของหมอทราบว่าท่านชื่อ หมอโนช ลำพอง พื้นเพเป็นคนอำเภอธาตุพนม สมัยเล็กๆได้ตามคุณแม่ไปอยู่ประเทศจีนได้ร่ำเรียนวิชานวดเขี่ยเส้นเอ็นจากหมอจีน หลังจากตามแม่กลับประเทศไทย ช่วงหลังแม่เกิดป่วยเป็นอัมพาต หมอจีนก็ได้มาเยี่ยมและรักษาจนแม่แม่หายป่วย หมอโนช ก็ได้เพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์จากหมอจีนเพิ่มขึ้น ช่วงหลังมีคนรู้กิตติศัพท์ ในการนวดเขี่ยเส้นเอ็นรักษาอาการต่างๆของหมอโนช จากปากต่อปากทำให้ผู้คนที่ทราบข่าวต่างหลั่งไหลมารักษาแทบทุกวัน ส่วนค่าใช้จ่ายก็ตามกำลังศรัทธาของผู้ป่วย
มีหลายรายโทรให้ไปนวดรักษาตามที่ต่างๆแต่หมอจะไม่ไป ผู้ป่วยต้องมารักษาที่บ้านของหมอเพราะหมอไม่ชอบการเดินทาง ไม่ชอบนั่งรถ เนื่องจากในอดีตหมอเคยขับรถจนเกิดอุบัติเหตุทำให้สูญเสียลูกสาวอันเป็นสุดที่รักไป จึงเกิดปมแผลในใจตลอดมา
และแล้วก็ถึงคิวที่ผมจะนวดหมอบอกไม่ต้องถอดเสื้อให้นอนหงายผมรีบบอกหมอว่ามีอาการเจ็บที่ไหล่ขวาด้านหลัง หมอคว้ามือขวาของผมมาจับไว้ แล้วนวด กด เขี่ยที่บริเวณไหล่ขวา เจ้าพระคุณท่านผู้อ่านครับสุดบรรยายถึงความเจ็บปวด เพราะมือหมอหนักมาก ผมกัดฟันหลับตา ได้ยินเสียงหมอบอกว่าเจ็บจะทนไหวไหมนี่ หมอยังบอกอีกว่าผมนอนตะแคงแล้วเอาหัวทับแขนมากไป เส้นมันขี่กันหรือเบียดกัน หมอนวดคลึง กด เขี่ยบริเวณหัวไหล่ประมาณ ๑๐ นาที เจ็บมากๆสุดจะทน แต่ต้องทน
จากนั้นหมอบอกนอนตะแคง แล้วนวดบริเวณไหล่ขวาอีก โอ้ย..เจ็บจริงๆทั้งกดทั้งเขี่ย กดปล่อย เขี่ยปล่อยประมาณ๗-๘ นาที แล้วหมอบอกให้นอนคว่ำ นวดบริเวณไหล่ด้านหลังซึ่งเป็นจุดที่ผมปวด หมอทำเหมือนเดิม กด เขี่ย ปล่อย ผมเจ็บอยากจะร้อง พอจะร้องหมอก็ปล่อยมือ หมอนวดอยู่ประมาณ๗-๘ นาทีแล้วหมอก็พูดให้ผมชื่นใจว่า “เสร็จแล้ว” สวรรค์โปรดผมคิดในใจหลังจากนั้นหมอบอกให้ลองยกแขนขึ้นยกแขนลงลองดู เป็นการทดสอบ
คิวต่อจากผมมีผู้ป่วยชายอีกรายข้อเท้าเคล็ดเดินแล้วเจ็บ หมอให้นอนเหยียดขา แล้วนวดๆดึงๆเขี่ยๆประมาณ ๕ นาที หมอบอกเรียบร้อยแล้วกลับได้ฮ่าๆๆ
วันนั้นกลับมาที่พักผลปรากฏว่าบริเวณไหล่ด้านหลังที่เคยปวดไม่ปวดแล้วแต่จะปวดระบมกับบริเวณหัวไหล่ที่หมอกดเขี่ยจุดใหม่แทน ผมต้องใช้น้ำมันนวด ขอบคุณสวรรค์ที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสมือหมอ หมอจับเส้นมือหนึ่งของนครพนม ที่ทำให้ผมได้ลิ้มรสการนวด กด เขี่ยเส้นขนานแท้ เจ็บเจียนตาย แต่หาย ฮ่าๆๆๆ
ใครอยากทดสอบ รักษาอาการเส้นเอ็นเหมือนผม ติดต่อนัดหมายหมอได้ที่ ๐๘-๔๙๖๑-๕๘๗๗ ขอให้ทุกท่านโชคดีหายป่วยครับ
วันต่อมาผมได้ตรวจสอบข้อมูลจากเพื่อนที่จังหวัดอุดรธานีเรื่องวัดเทพนรินทรารามและภิกษุในรูปที่เห็นที่บ้านหมอ ก็ทราบว่าวัดเทพนรินทราราม ตั้งอยู่ที่ ๑๑๙ หมู่ ๑๒ ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานีสร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๓ เดิมชื่อวัดคำไม้ยุง เพราะบริเวณนี้มีตันไม้พยุงอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนสร้างวัดนี้เกิดจากนิมิตในสมาธิของพระอาจารย์เทพนรินทร์ ชินรังสี เจ้าอาวาสวัดปัจจุบัน ท่านศึกษาธรรมะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกธุดงค์ที่อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ได้นิมิตเห็นภาพสถานที่ของวัดที่มีแต่เทพ เทวดา อยู่เต็มไปหมดถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงเลือกเป็นที่สร้างวัดโดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่บ้านสมนรินทร์ ต่อมาได้รับพระราชทานพระพุทธชินราชจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อประดิษฐานไว้เป็นพระประธานในวัดเทพนรินทราราม
นี่เป็นประวัติย่อๆนะครับจริงๆแล้ววัดนี้มีอะไรๆที่น่าสนใจให้ศึกษาอีกมากมาย ใครมีโอกาสผ่านมาทางนี้ก็แวะปฏิบัติธรรมที่วัดนี้รับรองท่านจะไขปริศนาได้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างที่ท่านอาจจะคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
-------------------------------------